เขาว่าหลวงพี่เป็น...ผู้มีอิทธิพล
โดยพระธาดา จรณธโร
ประธานมูลนิธิธรรมชาติพิสุทธิ์ (องค์กรสาธารณประโยชน์)
......................................
.. My way ..
Regrets, I’ve had a few;
but then again, too few to mention.
I did what I had to do,
I saw it through without exemption.
I planned each charted course;
each careful step along the byway.
And more much more than this,
I did it my way.
ฟังเพลง My way
......................................
(หลวงพี่ปล่อยให้ผู้ที่สนใจทำการบ้าน
เปิดดิคท์หาความหมายของเพลงนี้กันเองนะ)
......................................
หลวงพี่โตขึ้นมาพร้อมกับเพลงยุค 70s คณะที่ดังมากในยุคนั้นก็เช่น The Carpenters มีเพลงเช่น Mr.Postman หรือ Yesterday once more ซึ่งพอได้ยินบ่อยๆก็แทบจะร้องตามได้ แล้วก็ไปหาเนื้อเพลงจากหนังสือ IS Song Hits พอได้เนื้อเพลงก็เปิดดิคท์หาความหมายของเพลง สมัยนั้นมีหนังสือชื่อ Learn English From Song (เรียนภาษาอังกฤษจากเพลง) หลวงพี่สะสมหนังสือประเภทนี้ไว้หลายสิบเล่มตั้งแต่ยังเรียนมัธยม สิ่งหนึ่งที่อยากได้มากแต่ที่บ้านไม่มีก็คือกีต้าร์ นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่ค่อยชอบอยู่บ้านในช่วงวัยรุ่น |
ดนตรี เพื่อนที่ดีในชีวิต |
ช่วงเรียนช่างกลเพื่อนๆชวนกันตั้งวงดนตรี เนื่องจากหลวงพี่เล่นเครื่องดนตรีอะไรไม่เป็นจึงได้รับตำแหน่งนักร้องประจำวง จากนั้นก็ยืมกีต้าร์เพื่อนเล่นจนพอปะล่อมปะแล่มไปได้บ้าง วันหนึ่งคุณพ่อไปซื้อกีตาร์มาให้ตัวหนึ่งจากร้านแถวๆหลังกระทรวง มันเป็นกีต้าร์คลาสสิคยี่ห้อโนเนม ถ้าขึ้นสายให้ได้คีย์เสียงมาตรฐานสายจะตึงแทบขาด เล่นแล้วเจ็บนิ้วมากๆ (แก้ไขด้วยการจับมันคว่ำหน้าตีแทนกลอง) เล่นแล้วลืมคลายสายไม่กี่ครั้งความตึงของสายดึงจนคอกีต้าร์โก่ง แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีในบางช่วงของชีวิต
ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น หลวงพี่สะสมเครื่องดนตรี โดยเฉพาะกีต้าร์ มี 4 ตัว |
งานอดิเรกอย่างหนึ่งสมัยอยู่ญี่ปุ่นของหลวงพี่ก็คือการสะสมเครื่องดนตรี อพาร์ทเมนท์ของหลวงพี่ซึ่งกว้างขวางเพราะอยู่คนเดียวจึงเป็นกึ่งๆสตูดิโอดนตรีไป มีทั้งเปียโนไฟฟ้า และกีต้าร์ อีก เอ่อ.. ไม่มาก.. แค่ 4 ตัว ส่วนใหญ่มันจะทำหน้าที่เป็นเฟอร์นิเจอร์มากกว่าเป็นเครื่องดนตรี .. เพราะเกรงใจเพื่อนบ้านจึงไม่มีกลองชุด
ตั้งกล้องดูดาว |
ภาพผิวดวงจันทร์ |
อีกอย่างหนึ่งที่สะสมไว้คืออุปกรณ์ถ่ายภาพและ .. จะอะไรเสียอีก .. กล้องดูดาว .. หลวงพี่ใช้กล้องตัวนี้ส่องดูจนเห็นวงแหวนของดาวเสาร์และดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัส แบบเดียวกับที่กาลิเลโอเห็นเมื่อหลายร้อยปีก่อน ตอนกลางคืนบ่อยครั้งหลวงพี่เอาอุปกรณ์ดูดาวใส่ท้ายรถยนต์แล้วก็ขับไปคนเดียวบ้าง ชวนเพื่อนไปด้วยบ้างไปหาที่ดูดาวตามป่าตามเขา ครั้งสองครั้งแรกมีเพื่อนไปด้วย แต่พวกเขาคงหาความสุขจากการดูจุดขาวๆสว่างๆกลางท้องฟ้ามืดๆไม่เจอ ตอนหลังหลวงพี่จึงออกไปดูดาวคนเดียว แต่ปัญหาของญี่ปุ่นก็คือ หาสถานที่มืดสนิทปราศจากแสงไฟฟ้าได้ยากเย็นแสนเข็ญ
ครั้งหนึ่งอ่านเจอบทความว่านักดาราศาสตร์ส่องกล้องไปเจอระบบสุริยะจักรวาลที่มีดวงอาทิตย์หลายดวง นักวิทยาศาสตร์ตื่นเต้นกันมาก หลวงพี่อ่านเจอแล้วก็ขำๆ นึกในใจว่าพระพุทธเจ้าท่านบอกเอาไว้ตั้งนานแล้วมีบันทึกในพระไตรปิฎกว่าต่อไปเมื่อมนุษย์กิเลสหนาปัญญาหยาบมากขึ้น ดวงอาทิตย์ดวงที่สอง..และสาม..และสี่จนถึงเจ็ดดวง จะบังเกิดขึ้นบนท้องฟ้า ..
ครั้งหนึ่งหลวงพี่ยกอุปกรณ์ดูดาวลงไปตั้งส่องดูพระจันทร์ที่สวนสาธารณะใกล้ๆอพาร์ทเม้นท์ ก็มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินมาเยี่ยมๆมองๆ หลวงพี่เห็นว่าผู้ชายสนใจมากก็เลยเรียกไอ้หนุ่มมาดู เจ้าหนุ่มส่องพระจันทร์ผ่านกล้องแล้วก็อุทานไม่ขาดปากว่าสุโก้ยๆ พอคุยกันถูกคอหลวงพี่เลยชวนทั้งคู่มาที่อพาร์ทเม้นท์ ไอ้หนุ่มเห็นกีต้าร์เข้าเท่านั้นก็เลยแจมกีต้าร์กันสนุกสนาน คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถ้าทำอะไรก็จะทำกันจริงๆ ไอ้หนุ่มคนนี้เล่นกีต้าร์สไตล์แจ็ส บลูส์ เก่งระดับเจ้าของกีต้าร์อยากจะมุดพื้นแทรกผนังหายตัวไปเลย
Enough is enough
( พอก็คือพอ แปลง่ายดีจัง )
......................................
เมื่อหลวงพี่ตัดสินใจแล้วว่า
จะบวชบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
หลวงพี่ก็วางแผนจัดการทรัพย์สมบัติทั้งหมด
อุปกรณ์ดูดาวและอุปกรณ์ถ่ายภาพส่วนใหญ่
รวมถึงรถยนต์และสกูทเตอร์
เปลี่ยนเป็นปัจจัย เอาไปสมทบกองกฐิน
......................................
พูดถึงกฐินปี 2546 สร้างอาคาร 60 ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์
ซึ่งหลวงพี่ปวารณาเป็นประธานกอง ตอนแรกก็คิดว่าสบายๆแบ่งเงินเดือนออกมาทยอยทำไปเรื่อยๆ ถึงเดือนที่ทอดกฐินก็เต็มกองพอดี ปรากฎว่าปีนั้นเป็นบุญพิเศษ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเพิ่มบุญให้เป็นสองเท่าของปีที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างหลวงพี่ ก็นับว่าท้าทายใช้ได้เลย นับจากรับเป็นประธานกองกฐินก็พูดได้เลยว่าเงินเดือนออกมาแทบไม่ได้ใช้เอง ถวายเข้ากองกฐินเกือบทั้งหมด
ทำไปก็ปลื้มไป แล้วก็อธิษฐานจิตให้ได้มีโอกาสได้ศึกษาสมาธิขั้นสูง หวังว่าสักวันหนึ่งแทนที่จะเรียนรู้โลกและจักรวาลผ่านกล้องดูดาว เราจะไปดูเองด้วยใจที่เป็นสมาธิดังเช่นผู้มีรู้มีญาณทั้งหลาย
อุปกรณ์ถ่ายภาพที่เหลือนั้นมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับงานของวัด จึงรบกวนให้หลวงพี่รูปหนึ่งช่วยเป็นธุระ ส่วนกีต้าร์นั้นหลวงพี่ฝากน้องที่ญี่ปุ่นถือมาเมืองไทยเพื่อใช้ในงานพระศาสนา ภายหลังมีผู้ไปรวบรวมมาได้สามตัวและอยู่กับวงปัญจสิกขะจนถึงปัจจุบัน อุปกรณ์โฮมเธียร์เตอร์ถวายไปที่วัดไทยนากาโน่ เปียโนไฟฟ้ายกให้น้องคนหนึ่งไป ส่วนของที่เหลือก็เรียกเพื่อนๆที่ไปศูนย์โตเกียวด้วยกันมาเลือก ใครอยากได้อะไรก็เอาไป ทรัพย์สินอื่นๆรวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยก็ไม่ได้เก็บไว้ในชื่อตัวเองเลย แจกจ่ายไปจนหมดสิ้น
......................................
.. เกิดมาก็มาแต่ตัว จะบวชแล้ว
ไม่รู้จะสะสมไว้ให้หนักไปทำไม..
......................................
ทางด้านที่ทำงานตอนนั้นเป็นยุคทอง
ของตลาดด้านโทรคมนาคม
ถ้าหลวงพี่อยากจะเอาดีในด้านหน้าที่การงานทางโลกนั้น
มีหนทางให้ไปต่ออีกมากมาย (โดยไม่ต้องเลี่อยขาเก้าอี้ใคร ไม่ต้องไปใส่ร้ายป้ายข้อหาใครให้ตัวเองดูดีมีผลงาน .. เอ่อ .. ขอโทษ .. นอกเรื่องไปหน่อย)
อีกทั้งสัญญาเป็นเอ็กซแพทที่ญี่ปุ่นซึ่งต่อเป็นครั้งที่สองจะหมดปลายปี 2547 ปัญหาเดียวก็คือ..
ถ้ารอทำงานให้ครบสัญญา
หลวงพี่จะไม่ได้บวชรุ่นบูชาธรรม
ไม่ทันแม้กระทั่งรุ่นเข้าพรรษา
......................................
หลวงพี่ตัดสินใจได้ง่ายๆ
เดินไปคุยกับหัวหน้าเลยหกเดือนล่วงหน้า
ว่าจะลาออกในเดือนมีนาคม 2547
หัวหน้างานตกใจมาก
แต่ที่สุดก็เคารพในการตัดสินใจของหลวงพี่
......................................
เพื่อไม่ให้การงานสะดุด หลวงพี่นั่งวางแผนกับหัวหน้าหาคนมาทำงานแทนตัวเองเพื่อถ่ายทอดงานให้ ในที่สุดก็ตกลงใจเลือกลูกน้องคนหนึ่งชาวฟินแลนด์ นอกจากตำแหน่งงานแล้วเจ้าลูกน้องคนนี้ยังได้สืบทอดเสื้อแจ็คเก็ตตัวเก่งที่หลวงพี่ใช้ประจำยามขี่สกูทเตอร์ไปด้วย ยังจำสีหน้าของลูกน้องตอนนั้นได้ดี แกปลื้มมากทีเดียว
......................................
And now, the end is near;
and so I face the final curtain.
My friend, I’ll say it clear,
I’ll state my case, of which I’m certain.
I’ve lived a life that’s full.
I’ve traveled each and every highway;
And more, much more than this,
I did it my way.
......................................
และแล้วฉากสุดท้ายในชีวิตฆราวาส
ของหลวงพี่ก็มาถึง
ในวันหนึ่งกลางเดือนมีนาคม 2547
12 ส.ค. 2559 15:47
โดยพระธาดา จรณธโร
ประธานมูลนิธิธรรมชาติพิสุทธิ์
(องค์กรสาธารณประโยชน์)
(องค์กรสาธารณประโยชน์)
อ่านบทนำ - บทที่ 6ได้ที่
http://buddhisthotissue.blogsp ot.jp/2016/08/series_1.html
อ่านบทที่ 7 : ชีวิตคือการเดินทาง ได้ที่
อ่านบทที่ 8 : Been there .. Done that ..
สาธุ กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
ตอบลบตัวอย่างของผู้เสียสละ...
ชีวิตของนักบวช
ไม่ยึดมั่นถือมั่น
ไม่ยึดติดในวัตถุ คน สัตว์ สิ่งของ
ไม่สะสม...
ทั้งพรสวรรค์และพรแสวงสำหรับผู้มีบุญมากอย่างพระอาจารย์ธาดา ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ล้วนเป็นประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าให้ได้ศึกษาเรียนรู้ เป็นแบบอย่างโมเดลให้ได้ดำเนินรอยตาม คุ้มค่าน่าอ่านน่าติดตามมากครับ
ตอบลบสาธุุคะ
ตอบลบสาธุ สุโก้ยครับผม
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญ และถวายกำลังใจแด่พระอาจารย์เจ้าค่ะ. ธรรมะต้องชนะอธรรมแน่นอน
ตอบลบอนุโมทนาบุญ กับพระอาจารย์ค่ะ
ตอบลบพระท่านจะไปมีอิทธิพลตรงไหนเขาตั้งให้ทั้งนั้นเลยท่านไม่ต้องการ
ตอบลบเยี่ยมเลยครับ งานเขียนชองหลวงพี่ทำให้รู้ภูมิหลังว่า ทำไมถึงออกบวช
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบการนำที่พระนำชาวบ้านให้มีศีลธรรม และสอนหลักธรรมพุทธศาสนาให้ชาวบ้านเอาไปปฏิบัติ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องและท่านต้องสละทั้งชีวิตมาอยู่ในที่กันดาร ท่านไม่ได้จับปื่นแต่จับพระไตรปิฏก เป็นทหารกล้าแห่งกองทัพธรรม คิดพูดทำแต่สิ่งดีงาม เป็นแบบอย่างแก่สังคม
ตอบลบสาธุๆๆๆๆ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์เจ้าค่ะ ท่านสละความสุขทางโลกมุ่งมั่นสู่เส้นทางธรรมด้วยความเด็ดเดี่ยวสมเป็นนักรบกล้ากองทัพธรรม สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุ เจ้าคะ
ตอบลบ
ตอบลบอ่านแล้วย้อนนึกถึงตัวเองเลยค่ะ จะรอติดตามบทความตอนต่อไปนะคะ
กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ ^^
สาธุค่ะ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญกับการตัดสินใจที่เด็ดขาดจากทางโลกสู่ทางธรรมอย่างแท้จริงของพระอาจารย์ค่ะ. สาธุค่ะ. กราบนมัสการค่ะ
ตอบลบสุโก้ยมากเลยค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆบุญของหลวงพี่เจ้าค่ะ
ตอบลบหลวงพี่ตัดสินใจถูกแล้วเจ้าค่ะ
ตอบลบไม่มีชีวิตใดประเสริฐเท่าชีวิตสมณะ
อนุโมทนากับท่านธาดา จรณธมฺโม ผู้มีกำลังฤทธิ์(อิทธิพล) ๕ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา สร้างสรรค์งานพระศาสนา จากร่วงโรยให้รุ่งเรือง จากแห้งแล้งให้ราบรื่น สาธุๆๆ
ตอบลบI did it my way.
ตอบลบน้ำตาจะไหล บอกไม่ถูกค่ะ.. อาจเป็นเพราะเปิด my way ฟังไปด้วย หรืออาจเป็นเพราะว่าอยู่ที่ประเทศที่หลวงพี่กล่าวถึงด้วย แล้วก็ใกล้ถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตอีก.. ก็ด้วย ขอกราบอนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ธาดานะคะ หนูหวังว่าถ้าหนูได้ไปลองสิ่งที่หนูข้องใจจนหายสงสัย หนูคงจะได้กลับมา
ขอให้หมู่คนภัยพาลทำอะไรหลวงพี่และหมู่คณะไม่ได้นะคะ..
กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ด้วยเจ้าคะ
ตอบลบการตัดสินใจบวช..ที่ทำให้ชิวิตเปลี่ยนแปลงไปทั้งชีวิต
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุครับ..หลวงพี่
การตัดสินใจบวช..ที่ทำให้ชิวิตเปลี่ยนแปลงไปทั้งชีวิต
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุครับ..หลวงพี่
กราบอนุโมทนาบุญพระอาจารย์_ธาดา และกราบถวายกำลังใจมาด้วยค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ค่ะ หลวงพี่สุโก้ยมากเลยค่ะ
ตอบลบพระอาจารย์ธาดา สุดยอด ตัดสินใจ สุดเยี่ยม......สาธุค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ค่ะ หลวงพี่สุโก้ยมากเลยค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ธาดามากๆค่ะ เกิดมาเพื่อสร้างบารมีจริงๆค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุๆๆๆกับพระอาจารย์ด้วยค่ะ
ตอบลบเมื่อใจหยุดนิ่งได้ชื่อว่าเริ่มต้นการเดินทางสู่ความสุขที่แท้จริงแล้ว
ตอบลบเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยเจ้าค่ะหลวงพี่ ชีวิตใดจะประเสริฐไปกว่าชีวิตของนักบวชเป็นไม่มีอีกแล้ว
ตอบลบชีวิตที่ปลอดกังวล คือชีวิตนักบวช
ตอบลบหญิงก็รักษาศีล 8 ลองดูซีแล้วจะรู้ว่า. จริงเนาะ
สาธุ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบ🌐หลวงพ่ออยากให้ลูกๆ มาสัมผัสละอองแห่งการบรรลุธรรม (โอวาท+ประมวลภาพ พิธีพิมพ์พระปี45) คลิปประวัติศาตร์ ที่หาดูยากมากๆ...
ตอบลบ🔽https://www.youtube.com/watch?v=188x81Z9MHs
ชอบมากค่ะ อนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบmy way ของหลวงพี่ธาดา คือ idol ต้นแบบ best way ของแท้ในยุคนี้ครับ
ตอบลบสุดยอดค่ะ
ตอบลบเกิดเพื่อทำนิพพานให้แจ้ง ชีวิตจะทำง่ายที่สุด
ตอบลบสาธุ
ตอบลบตัดใจขาดจากทางโลก เหมือนพระราชาที่สละราชสมบบัตริแล้วออกบวช
ตอบลบ"บวชสร้างบารมี" เป็นการดำเนินชีวิตอันประเสริฐ
ตอบลบพระอาจารย์ธาดา ได้บวชอุทิศตนด้วยความเสียสละ อดทน แถมยังได้ตั้งมูลนิธิฯ สละทรัพย์เพื่อทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมอีกด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำได้ยาก และเป็นสิ่งที่ควรแก่การชื่นชมยินดีและอนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรแล้ว เมื่อยังมุ่งมั่นฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ด้วยคุณธรรมความดีงาม เป็นหนึ่งก็จะมีชัยชนะอันขาวสะอาด ปลื้มปีติใจ และมีความสุขตลอดไป สาธุๆๆ !!!
สิ่งอัศจรรย์จะเกิดขึ้นกับบุคคลพิเศษเท่านั้น เส้นทางนี้เลิศที่สุด..
ตอบลบสาธุครับหลวงพี่
ตอบลบฝากผลงานของนักเขียนหน้าใหม่ด้วยครับ
ตอบลบเส้นทางธรรมหนุนนำชีวิตให้รุ่งเรือง
โดย...อ.อินทปัญญา
ตอนที่ ๑ http://inthapanya99.blogspot.com/2016/08/blog-post.html
ตอนที่ ๒ http://inthapanya99.blogspot.com/2016/08/normal-0-false-false-false-en-us-x-none.html
ตอนที่ ๓http://inthapanya99.blogspot.com/2016/08/blog-post_13.html
สาธุค่ะ อนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ด้วยค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ อนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ด้วยค่ะ
ตอบลบชีวิตมาได้ขนาดนี้ ท่านยังบวชไม่คิดสึก สาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบชีวิตมาได้ขนาดนี้ ท่านยังบวชไม่คิดสึก สาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ
ตอบลบท่านเป็นผู้กล้า เเห่งกองทัพธรรม กราบอนุโมทนาบุญ กับพระอาจารย์ธาดา สาธุๆๆครับ
กราบอนุโมทนาบุญในทุกๆบุญและกราบถวายกำลังใจในการสู้ต่อไปเจ้าค่ะ กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญและกราบถวายกําลังใจด้วยเจ้าค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญ กราบถวายกำลังใจค่ะ
ตอบลบกราบถวายกำลังใจส่งมายังพระอาจารย์ ขอให้ท่านพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงเจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบเยี่ยมยอดสาธุ กราบอนุโมทนาเจ้าค่ะ
ตอบลบขอถวายกำลังใจ. ขอให้ความดีชนะอธรรม
ตอบลบขออนุโมทนากับทุกๆบุญ ที่หลวงพี่ธาดาได้อุทิศชีวิตสั่งสมไว้ในพระพุทธศาสนาด้วยครับ
ตอบลบอ่านแล้วชีวิตการสร้างบารมีของหลวงพี่สุดยอดมากๆค่ะ เป็นกำลังใจแด่นักสร้างบารมี
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ
ตอบลบพระอาจารย์ผ่านชีวิตมาครบทุกแบบ และได้แสดงการดำเนินชีวิตของคนทางโลกที่สนใจสิ่งใกล้สิ่งไกล ความรู้เสียงเพลง ความมุ่งหมาย การงาน "your way be Phra in Buddism is the best way. กราบอนุโมทนาพระอาจารย์อย่างสูงยิ่ง เป็นเนื้อนาบุญและเป็นพระพัฒนาบุกเบิก เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างไกล
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบ