ชีวิตคือการเดินทาง |
เขาว่าหลวงพี่เป็น...ผู้มีอิทธิพล !!!
โดยพระธาดา จรณธโร
ประธานมูลนิธิธรรมชาติพิสุทธิ์ (องค์กรสาธารณประโยชน์)
ไม่นานนักหลังจากคุณแม่ถึงแก่กรรม
คุณพ่อก็ป่วยเป็นมะเร็งปอด
เพียงหกเดือนหลังจากหมอตรวจพบโรคร้ายท่านก็เสียชีวิต
หลวงพี่อยู่กับท่านที่ข้างเตียงผู้ป่วยจนถึงวาระสุดท้าย ..
จะทำอย่างไรต่อไปดี?
ตั้งใจจะตอบแทนบุญคุณท่านทั้งสอง แต่ท่านก็มาจากไปแล้วทั้งคู่ หลวงพี่มีพี่สองคน คนกลางเป็นผู้หญิง เราเข้าเรียนพร้อมกันและมักจะอยู่ห้องเดียวกัน พี่สาวคนนี้เรียนเก่งมาก แต่ต่อมาป่วยหนักจนไม่สามารถเรียนหนังสือได้ ต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยม คุณพ่อคุณแม่ห่วงลูกคนนี้มาก เมื่อทั้งคุณพ่อคุณแม่เสียชีวิตแล้ว จึงเป็นภาระของพี่ชายคนโตในการดูแลน้องสาว
มาถึงตอนนี้หลวงพี่จึงมีความตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินให้พี่ๆสักก้อน พอหายห่วงแล้วจะได้มาบวชตามความตั้งใจ
ปี 2537
หลวงพี่เข้าทำงานที่ SITA Telecom ซี่งเป็นบริษัทสื่อสารข้อมูลของสายการบินทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ที่ไหนมีสนามบินนานาชาติ ที่นั่นต้องมีออฟฟิสของ SITA อยู่เสมอ (อธิบายให้เข้าใจง่ายๆว่า สายการบินทั่วโลก ลงขันกันตั้ง SITA ขึ้น เพื่อใช้เป็นกองกลางในการดูแลระบบสื่อสารข้อมูล)
งานของหลวงพี่คือการสอนอุปกรณ์และโปรโตคอลการสื่อสารข้อมูลให้กับพนักงานของ SITA ในประเทศแถบเอเซีย
ชีวิตช่วงนี้ของหลวงพี่ต้องเดินทางเป็นว่าเล่น เดินทางจนต้องเพิ่มหน้าพาสพอร์ทบ่อยๆจนพาสพอร์ทหนาตึ้ก บ่อยครั้งเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาหาหน้าวีซ่าเป็นนานสองนานกว่าจะเจอ ทำงานที่ SITA อยู่ 2 ปีหลวงพี่เดินทางไปเกือบสามสิบประเทศทั้งไปเรียนและไปสอน บางประเทศก็ไปหลายๆครั้ง
เคยคุยเล่นกับเพื่อนร่วมงานว่าไปลอนดอนบ่อยกว่าไปวงเวียนใหญ่อีก เดินทางบ่อยจนคนข้างบ้านคิดว่าหลวงพี่ทำงานสายการบิน
แม้จะต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างมากในการทำงาน ทั้งเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง แต่รายได้สมัยทำงาน SITA ก็แค่อยู่ในระดับพออยู่ได้ ยังไม่เห็นวี่แววเลยว่าจะเก็บเงินก้อนได้อย่างไร
.. หลวงพี่อธิษฐานกับพระเดชพระคุณหลวงปู่บ่อยครั้งว่าขอให้หลวงพี่ได้หลุดพ้นจากพันธนาการทั้งหลายโดยเร็วเถิด จะมาบวชช่วยหลวงปู่เผยแผ่พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย .. อีกไม่นานแล้วคำอธิษฐานของหลวงพี่กำลังจะกลายเป็นความจริง ..
ในที่สุดหลวงพี่ก็ถูกชักชวนให้มาทำงานที่บ.โนเกียเทเลคอมมูนิเคชั่นส์ (ไม่ใช่ส่วนที่ขายโทรศัพท์มือถือ) ในแผนกฝึกอบรม เนื่องจากเป็นยุคที่โนเกียพึ่งเข้ามาบุกเบิกตลาดในเอเซีย ในช่วงนั้นจึงมีเอ็กซแพท (Expat คือพนักงานบริษัทที่ทำงานนอกประเทศของตัวเอง โดยบริษัทรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ทั้งค่าที่พัก ค่าเล่าเรียนลูก ค่าเดินทาง ค่าประกันต่างๆ) ทำงานเป็นจำนวนมาก
ช่วงนั้นธุรกิจในเมืองไทยกำลังบูมมีลูกค้ารายใหญ่หลายราย ประเทศไทยก็เลยได้เป็นสำนักงานประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค
เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่สูงในโลกธุรกิจทุกคนต้องทำงานอย่างหนัก เลิกงานแล้วพนักงานก็จะจับกลุ่มสังสรรค์กันคลายเครียดตามประสาชาวโลก ซึ่งหลวงพี่ก็จะหลบเลี่ยงเสมอ ยกเว้นเป็นงานเลี้ยงที่หลบไม่ได้ หลวงพี่ทำให้ฝรั่งงงกันบ่อยๆ เมื่อมาชักชวนให้ดื่มเหล้า หลวงพี่ก็จะตอบสบายๆว่า Sorry I don’t drink. (ขอโทษผมไม่ดื่ม) ฝรั่งหลายคนคงไม่เคยเจอคนไม่ดื่มเหล้า พยายามถามว่าหลวงพี่มีปัญหาสุขภาพอะไรหรือเปล่า
แต่ในที่สุดทุกคนก็ยอมรับว่าหลวงพี่ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ใครบอกว่าไม่ดื่มเหล้าเข้าสังคมไม่ได้?
ใครบอกว่าไม่ดื่มเหล้าการงานจะไม่ก้าวหน้า?
ปี 2540
บริษัทลงทุนสร้างศูนย์ฝึกอบรมขึ้นที่ออฟฟิสที่ซอยรางน้ำ เพื่อใช้อบรมลูกค้าของบริษัทจากทั่วภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค .. หลวงพี่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการศูนย์ฝึกอบรม
จำได้ครั้งหนึ่งไปประชุมที่ฟินแลนด์มีผู้จัดการศูนย์ฝึกอบรมจากทั่วโลกมาประชุมกัน ตอนกลางคืนก็พากันไปเลี้ยงสังสรรค์ แน่นอน..ติดลมกินเหล้ากันเมามาย ตกเช้าพอเจอกันผู้จัดการจากดัลลัสก็บอกกับหลวงพี่ว่า
Thada, you are wise that you don’t drink. I’ve got a terrible headache now. (ธาดา ยูคิดถูกแล้วที่ไม่ดื่มเหล้า ตอนนี้ไอปวดหัวชิ้บ...)
ปี 2541
ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมระดับภูมิภาคว่างลง .. หัวหน้าเรียกหลวงพี่เข้าไปพบ แล้วแจ้งว่าหลายปีที่ผ่านมาตำแหน่งงานระดับนี้จะมีแต่เอ็กซแพทมาดูแล เพราะต้องเป็นตัวแทนของบริษัทไปพบและเจรจากับลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค แต่บริษัทก็อยากจะทำให้เป็นตัวอย่างว่าพนักงานในประเทศก็มีโอกาสรับผิดชอบงานสำคัญๆเช่นกัน จึงมอบตำแหน่งที่ว่างลงนั้นให้หลวงพี่
ถัดมาอีกไม่นาน บ.โนเกียได้ไปเปิดศูนย์วิจัยที่ญี่ปุ่นและเริ่มมีลูกค้าหลายราย ตอนแรกๆหลวงพี่ต้องแบ่งเวลาครึ่งหนึ่งไปอยู่ญี่ปุ่นและอีกครึ่งหนึ่งกำกับดูแลงานในประเทศอื่นๆ ปลายปี 2543 บริษัทก็ส่งหลวงพี่ไปประจำเป็นเอ็กซแพทที่ญี่ปุ่น เพื่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมและดูแลศูนย์วิจัยด้วย
ในเวลาไม่นานหลวงพี่ก็ส่งเงินมาให้พี่ชายซื้อที่ดินและสร้างบ้านอีกทั้งปรับปรุงบ้านของคุณพ่อคุณแม่เป็นห้องให้เช่า ส่วนพี่สาวนั้นเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้น ..
ถึงตอนนี้หลวงพี่ก็หมดห่วงแล้ว ..
8 ส.ค. 2559 14:48
โดยพระธาดา จรณธโร
ประธานมูลนิธิธรรมชาติพิสุทธิ์
(องค์กรสาธารณประโยชน์)
(องค์กรสาธารณประโยชน์)
อ่านบทนำ - บทที่ 6ได้ที่
http://buddhisthotissue.blogsp ot.jp/2016/08/series_1.html
สาธุ น่าติดตามมากครับหลวงพี่ธาดา
ตอบลบเรื่องราวของหลวงพี่ธาดาน่าติดตามมากค่ะ ดีมากๆๆค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ลบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ลบชีวิตของผู้สละทางโลก และเห็นแก่ทางธรรมมากกว่าสุขสบายของตัวเอง พระอย่างนี้น่ากราบอย่างมาก สาธุๆๆ
ตอบลบติดตามตอนต่อไปค่ะ..
ตอบลบท่านเป็นพระแท้ ขอกราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุครับ
ตอบลบเป็นกำลังใจให้ลพี่ธาดาครับ
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุครับ
ตอบลบOne reaps whatever one has sown.
ตอบลบThose who do good recieve good.
and those who do evil recieve evil.
"บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี
ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว "
#พุทธพจน์
สาธุ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบเก่งและดีจริงๆ^^
ตอบลบขอกราบอนุโมนาบุญและถวายกำลังใจแด่หลวงพี่ธาดาด้วยครับ
ตอบลบกราบถวายกำลังใจแด่พระอาจารย์เจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบกราบถวายกำลังใจแด่พระอาจารย์ธาดา..
ตอบลบขอให้ท่านมุ่งมั่นทำหน้าที่ของท่านต่อไป..
ขอกราบอนุโมทนา..สาธุครับ
หลวงพี่ธาดา มีประวัติที่น่าสนใจ มากเลยค่ะ ขนาดท่านประสบความสำเร็จทางโลกมากมาย แต่ท่านก็ตัดสินใจมาบวชและทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาขนาดนี้ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุๆๆ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุครับ
ตอบลบประวัติหลวงพี่น่าติดตามมากเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ. อนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบคนแก่งมีความสามารถดีๆ อย่างนี้ เป็นกำลังให้กับพระศาสนาได้เป็นอย่างดี อนุโมทนาบุญด้วยครับ
ตอบลบรออ่านงานเขียนจากชีวิตจริงของหลวงพี่ค่ะ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพยิ่งค่ะ. สาธุ
ตอบลบขอถวายกำลังใจแด่หลวงพี่ค่ะ หลวงพี่ต้องชนะคนชั่วค่ะ
ขอถวายกําลังใจให้หลวงพี่เจ้าค่ะ
ตอบลบกราบ กราบ กราบ ถวายกำลังใจหลวงพี่เจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบ🍁🌹💐🙏🙏🙏
ตอบลบคนพาลค่ะเขาไม่จักถูกหรือผิดต้องรอให้ใจเขาสว่างค่ะเราต้องช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาค่ะ
ตอบลบกราบถวายกำลังใจหลวงพี่เจ้าค่ะ
ตอบลบขอให้ข้าพเจ้าเดินไปสู่หนทางสว่างด้วยเถิด
ตอบลบถราบถวายกำลังใจหลวงพี่เจ้าค่ะ
ตอบลบพระอาจารย์เก่งมาก ขอถวายกำลังใจให้พระอาจารย์สู้ต่อไปค่ะ
ตอบลบหลวงพี่เป็นบุคคลที่สุดยอดค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบเรื่องราวของหลวงพี่ธาดา น่าติดตามมากค่ะ ขอผลบุญทึ่ตั้งใจทำมาดีแล้วขอให้หลวงพี่พ้นภัยค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญที่เล่าเรื่องราว ดีๆ ให้ฟังค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมธนาสาธุค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมธนาสาธุค่ะ
ตอบลบชีวประวัติของหลวงพี่อ่านเพลินเลยค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำให้กับพระพุทธศาสนาขอให้ปกป้องคุ้มครองหลวงพี่ให้รอดปลอดภัยจากพวกมารด้วยเทอญ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบชีวิตที่ไม่ธรรมดา
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบพระอาจารย์ธาดา ท่านได้บวชอุทิศตน ด้วยความเสียสละ อดทน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ
ตอบลบเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนา โดยส่วนรวม นับได้ว่าเป็นพุทธบุตรคุณภาพรูปหนึ่งที่หาได้ยากของประเทศ และพระพุทธศาสนา ย่อมสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูและอนุโมทนา มิใช่หรือ ???
สาธุๆๆค่ะ
ตอบลบเป้าหมายชีวิตชัดเจนมากค่ะ
กราบอนุโมทนาบุญ เจ้าค่ะ
ตอบลบเป็นบทความที่ดีมาก..ๆ
เป็นต้นแบบให้กับโยม ที่ยัง "ติดกับ" งานทางโลก
เราคือผู้ออกแบบชีวิต
เหลือเชื่อเลยค่ะว่าจะมาเป็นท่านวันนี้ได้...ต้องติดตามต่อ... ตื่นเต้นเลยค่ะ..
ตอบลบกราบถวายกำลังใจหลวงพี่ธาดา สู้ๆๆๆต่อไปเจ้าค่ะ ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมเสมอ กราบสาธุๆๆ
ตอบลบท่านเป็นพระเเท้ สมควรเเก่การยกย่องเป็นอย่างยิ่ง
ตอบลบกราบถวายกำลังใจ พระอาจารย์ธาดาด้วยครับ
สาธุ น่าติดตามมากเจ้าค่ะ
ตอบลบขอถวายกำลังใจเจ้าค่ะ ใช้ชีวิตทำความดี คุ้มที่สุดแล้วเจ้าค่ะ
ตอบลบเป็นกำลังใจให้หลวงพี่ค่ะ
ตอบลบเป็นกำลังใจให้หลวงพี่ค่ะ
ตอบลบเป็นกําลังใจให้พระอาจารย์ธาดาเจ้าคะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญค่ะหลวงพี่ สุดยอดจริงๆ
ตอบลบกราบถวายกำลังใจแด่หลวงพี่ธาดาค่ะ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ